วันอังคารที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ทำใจให้รักเจ้านาย

"มาทำใจให้รักให้รักเจ้านายกันเถอะ"

ถึงเจ้านายคุณจะสร้างความอึดอัดให้คุณขนาดไหน ก็อย่าคิดไปเปลี่ยนเจ้านายเลย ทุกอย่างอยู่ที่ตัวคุณเองที่ต้องมั่นใจว่าคุณจะรับมือกับเจ้านายได้เสมอ แม้ว่าเขาหรือเธอจะมู้ดดี้สักแค่ไหน แรกๆ อาจจะยากสักหน่อย แต่เชื่อสิว่าคุณจะหาวิธีเวิร์คๆ ให้รักเจ้านายตัวเองได้

1. บอกตัวเองให้มั่นใจ จำไว้ว่าคุณไม่ได้แย่อย่างที่เจ้านายว่าหรอก เพียงแต่คุณอาจจะเผอเรอ ไม่ทันระวัง ก็เลยทำงานพลาดโดยไม่ได้ตั้งใจ ทีนี้แทนที่จะโกรธ..คงต้องหันไปขอบคุณเจ้านายที่บอกให้คุณรู้ตัว ช่วยให้คุณไม่ทำงานพลาดใหญ่โตไปมากกว่านั้น และยังช่วยเตือนตัวคุณไม่ให้ทำผิดพลาดอีกคราวหน้า
2. คิดซะว่า....เราจะได้เก่งขึ้น อย่ามัวแต่คิดว่าเจ้านายกดดันให้คุณทำงานมากมาย ต้องรับผิดชอบงานนั้นงานนี้เต็มไปหมด อะไรๆ ก็เรียกใช้คุณตลอด นั่นไม่ใช่เพราะเจ้านายอยากจะแกล้งคุณหรอก แต่เป็นเพราะเจ้านายอยากให้คุณทำงานเก่งขึ้นมากกว่า ยิ่งทำงานมาก คุณก็ยิ่งเก่งมากกว่าคนอื่นไม่รู้กี่เท่า จริงไหม
3. รู้มั้ยว่า “ เจ้านายเครียดยิ่งกว่าคุณอีก” รู้ไหมว่าเบื้องหลังงานของเจ้านายก็มีแต่เรื่องใหญ่ๆ ให้ต้องรับผิด ชอบ วางแผนงานโดยรวม ประชุมสรุปงานไม่เว้นแต่ละวัน วันละหลายชั่วโมง มีแต่เรื่องเครียดๆให้คิด การเงินก็ต้องดู และยังต้องดูแลลูกน้องอย่างคุณด้วย เห็นมั้ยว่ามีแต่เรื่องยุ่งยากกว่าให้ทำทั้งนั้น ถ้าให้คุณเป็นเจ้านายดูบ้าง คุณจะว่าไง
4. เจ้านายก็คนธรรมดานี่แหละ บางวันอาจเจออะไรแย่ๆ บังเอิญทำเห็นหน้าคุณเข้าก็เลยหงุดหงิดทันที อย่าไปคิดมากอะไร ถ้าเรื่องไม่เป็นเรื่องก็ทำเป็นหูทวนลมไปซะ เดี๋ยวเจ้านายก็คงอารมณ์ดีขึ้นเอง แต่ช่วงนั้นคุณอย่าพึ่งเข้าไปคุยเรื่องงานเข้าล่ะ ยิ่งถ้ามีปัญหาอะไรเบรคเอาไว้ก่อน แล้วแอบดูอารมณ์เจ้านายนิดหนึ่งว่าดีขึ้นหรือยัง ถ้าดีแล้วค่อยเข้าไปคุยจะดีกว่า...

ที่มา : หนังสือคลีโอ ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2550
จัดทำโดย...สมาชิกหอผู้ป่วยใน รพ.รร.จปร กลุ่มที่ 3 (4 ส.ค.51)

การมีชีวิตอยู่กับคนที่รักคือความสุข

"การมีชีวิตอยู่กับคนที่รักคือความสุข"

ทุกวันนี้เรามีตึกสูงขึ้น มีถนนกว้างขึ้น แต่...ความอดกลั้นน้อยลง
เรามีบ้านใหญ่ขึ้น แต่...ครอบครัวของเรากลับเล็กลง
เรามียาใหม่ ๆ มากขึ้น แต่...สุขภาพกลับแย่ลง
เรามีความรักน้อยลง แต่...มีความเกลียดมากขึ้น
เราไปถึงโลกพระจันทร์มาแล้ว แต่...เรากลับพบว่า แค่การข้ามถนนไปทักทายเพื่อนบ้านกลับยากเย็น.....
เราพิชิตห้วงอวกาศมาแล้ว แต่...แค่ห้วงในหัวใจกลับไม่อาจสัมผัสถึง
เรามีรายได้สูงขึ้น แต่...ศีลธรรมกลับตกต่ำลง
เรามีอาหารดี ๆ มากขึ้น แต่...สุขภาพแย่ลง
ทุกวันนี้ทุกบ้านมีคนหารายได้ได้ถึง 2 คน แต่...การหย่าร้างกลับเพิ่มมากขึ้น
ดังนั้น…… จากนี้ไป……ขอให้พวกเรา อย่าเก็บของดี ๆ ไว้โดยอ้างว่าเพื่อโอกาสพิเศษ
เพราะทุกวันที่เรายังมีชีวิตอยู่คือ ……โอกาสที่พิเศษสุด……แล้ว

จงแสวงหา การ หยั่งรู้
จงนั่งตรงระเบียงบ้านเพื่อชื่นชมกับการมีชีวิตอยู่ โดยไม่ใส่ใจกับความ…..อยาก…
จงใช้เวลากับครอบครัว เพื่อนฝูงคนที่รักให้มากขึ้น…
กินอาหารให้อร่อย ไปเที่ยวในที่ที่อยากจะไป
ชีวิตคือโซ่ห่วงของนาทีแห่งความสุขไม่ใช่เพียงแค่การอยู่ให้รอด
เอาแก้วเจียระไนที่มีอยู่มาใช้เสีย
น้ำหอมดี ๆ ที่ชอบ จงหยิบมาใช้เมื่ออยากจะใช้
เอาคำพูดที่ว่า! …….สักวันหนึ่ง……..ออกไปเสียจากพจนานุกรม
บอกคนที่เรารักทุกคนว่า...เรารักพวกเขาเหล่านั้นแค่ไหน
อย่าผลัดวันประกันพรุ่ง...ที่จะทำอะไรก็ตามที่ทำให้เรามีความสุขเพิ่มขึ้น
ทุกวัน ทุกชั่วโมง ทุกนาที มีความหมาย เราไม่รู้เลยว่าเมื่อไรมันจะสิ้นสุดลง
…..และเวลานี้…. ถ้าคุณคิดว่าคุณไม่มีเวลาที่จะ อ่านข้อความนี้……
แล้วคิดว่า….สักวันหนึ่ง…..ค่อยอ่าน..
จงอย่าลืมคิดว่า….สักวันหนึ่ง…..วันนั้น คุณอาจไม่มีโอกาสมานั่งตรงนี้เพื่อทำอย่างที่คุณต้องการอีกก็ได้

ด้วยความปรารถนาดี...จาก พ.ต.หญิงรุ่งอรุณ วัฒยากร : 1 สค.51

อาหารลดเครียด

“ อาหารลดความเครียด ”


อาหารลดความเครียดนี้ จะเป็นอาหารที่มีสารที่เรียกว่า “ซีโรโตนิน” ทำหน้าที่เกี่ยวกับการแสดงอารมณ์ความรู้สึก และควบคุมวงจรการนอนหลับ สารตัวนี้เมื่อเข้าในสมอง จะทำให้ความเครียดลดลง ซึ่งมีในพวก คาร์โบไฮเดรต แต่ควรจะรับประทานประเภท คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น ขนมปังโฮลวีต ผลไม้รสหวาน โดยรับประทานอาหารที่เย็นและหวานแต่ไม่ต้องถึงกับหวานจัด เช่น ผลไม้แช่เย็น น้ำผลไม้ จะทำให้สดชื่นขึ้นหากว่าเราเครียดมาเป็นระยะเวลานาน ร่างกายเราจะขาดวิตามินบีรวม,อีและซี สังกะสี โปแตสเซียม และแมกนีเซียม เพราะ ร่างกายต้องใช้สารเหล่านี้ในการสร้างฮอร์โมน เพราะฉะนั้น “เวลาเครียดจึงควรรับประทานอาหารพวกผัก ผลไม้ หลากหลายที่มีรสเปรี้ยว เพราะมีวิตามินซีค่อนข้างมาก ได้แก่ กล้วยหอม มังคุด และส้ม ผักใบเขียว และธัญพืช






เรามีวิธีง่ายๆในการลดความเครียดมาฝากกันค่ะ...

**เริ่มต้นจากตัวของเรา ต้องรู้จักปล่อยวาง เพราะทุกวันเรามักเผชิญกับเหตุการณ์ที่มากระทบกระเทือนจิตใจของเรา
**เราบังคับไม่ให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นไม่ได้ แต่เราก็สามารถฝึกตัวเองให้หวั่นไหวน้อยที่สุด มีอารมณ์ในสิ่งนั้นน้อยที่สุด
**ตั้งสติแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้น อย่าตำหนิอดีตหรือโทษอดีตที่แก้ไม่ได้ หรือกังวลถึงอนาคตที่ยังมาไม่ถึง แต่ “ตั้งใจทำปัจจุบันให้ดีที่สุด





ที่มา : จุลสาร Good-lift ฉบับที่ 19 ประจำเดือนมี.ค-เม.ย51 จัดทำโดย...สมาชิกหอผู้ป่วยใน รพ.รร.จปร กลุ่มที่ 1 (7-18 ก.ค.51)

วันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ปวดหลังจากการแต่งตัว

"แต่งตัวด้วยทองหยองก็เป็นโทษอาจทำให้เจ็บปวดแผ่นหลังทรมาน"


หมอจัดกระดูกผู้มีชื่อเสียงกล่าวเตือนสตรีทั่วไปว่าแม้ว่าเครื่องประดับอย่างพวกตุ้มหูที่แวววับสร้อยคอ และครอบฟันที่เป็นทองจะทำให้สวยเด่นสะดุดตากว่าผู้อื่นแต่ก็อาจทำให้ปวดหลังได้
นายไซมอน คิง หมอนักจัดกระดูกจากนิวซีแลนด์กล่าวว่า ตุ้มหู สร้อยคอ นาฬิกาข้อมือ และแม้แต่ครอบฟันทองอาจเป็นขนวนทำให้ปวดหลังหมดเรี่ยวหมดแรงได้เนื่องจากการเสียดสีกับโลหะเหล่านี้จะทำให้กล้ามเนื้อเกร็งอยู่เสมอทำให้มันอ่อนแรงลงยิ่งกว่าปกติ กล้ามเนื้อที่อ่อนแอจะทำให้รู้สึกเจ็บปวดที่หลังและคอ ไหล่แข็ง หมอนรองกระดูกเคลื่อน ข้อศอกด้านนอกอักเสบ ไม่มีคนไหนที่อยากจะเอาที่อุดหรือครอบฟันด้วยทอง หรือถอดเครื่องประดับต่าง ๆ ทิ้งไป แต่ถ้าหากมันทำให้เจ็บปวดหรือเกิดปัญหาทางสุขภาพอาจจะทำให้เสียงานหรืออาชีพทางด้านกีฬาหรือทำให้รู้สึกเจ็บปวดทรมานอยู่แรมปีก็สมควรที่จะเอาครอบหรือสิ่งที่อุดฟันพวกนั้นออกเสีย
นายคิงอ้างว่าได้ศึกษาวิจัยเรื่องนี้มาเกือบ 8 ปี รู้ว่าการแต่งเครื่องประดับที่เป็นโลหะทำให้ระบบประสาทมีความระแวงที่จะคอยเกร็งตัวให้ห่างจากผิวหนังบริเวณที่อยู่ใกล้ ๆ มัน ทำให้กล้ามเนื้อชิ้นใหญ่ต้องคอยเกร็งอยู่รักษาความห่างเอาไว้ “ ดีแต่มีข้อดีใหญ่อยู่อย่างหนึ่งตรงที่การรักษาเป็นแบบด้วยวิธีธรรมชาติทั้งหมดมันจึงทำได้ปลอดภัยและทำให้หายเป็นปกติลงได้ทุกเมื่อ”

ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐวันศุกร์ที่ 11 พ.ค.51
จัดโดย...สมาชิกหอผู้ป่วยใน รพ.รร.จปร กลุ่มที่ 2 (21ก.ค.-3 ส.ค.51)

กาแฟเติมพลัง

"กาแฟเติมพลังคืนให้กับกล้ามเนื้อนักกีฬากลับเข้มแข็งได้เร็วขึ้น"
ตามปกติเมื่อออกกำลังเหนื่อยๆ ใครๆ ก็อยากจะกินน้ำแต่การวิจัยใหม่กลับพบว่าหากกินกาแฟสักหนึ่งถ้วยจะกลับช่วยให้กล้ามเนื้อตามส่วนต่างๆ กลับสดชื่นขึ้นใหม่ได้อย่างรวดเร็ว
นักวิจัยของสมาคมสรีรวิทยาอเมริกันศึกษา พบว่าคนที่ออกกำลังมาอย่างหนัก หากกินคาร์โบไฮเตรตและคาเฟอีนผสมกันจะช่วยเติมไกลโคเจนอันเป็นเชื้อเพลิงหลักของกล้ามเนื้อขณะออกกำลังให้กลับคืนเหมือนเดิมได้ในเวลาอันรวดเร็ว พวกเขาได้พบว่านักกีฬาที่ได้บริโภคคาเฟอีนกับคาร์โบไฮเดรตจะกลับมีไกลโคเจนในกล้ามเนื้อกลันคืนมากถึงร้อยละ 66 ชั่วหลังจากการฝึกซ้อมมาอย่างหนักในเวลาแค่เพียง 4 ชม.

ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐวันศุกร์ที่ 11 พ.ค.51
จัดโดย...สมาชิกหอผู้ป่วยใน รพ.รร.จปร กลุ่มที่ 2 (21ก.ค.-3 ส.ค.51)