วันพฤหัสบดีที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2551

6 ทิปส์ จิบกาแฟเพื่อสุขภาพ

"6 ทิปส์ จิบกาแฟเพื่อสุขภาพ”

อัพเดทความรู้ใหม่ และสลัดความเชื่อเก่าที่ผิดๆ เรื่องกาแฟทิ้ง...เพราะมันให้คุณมากกว่าโทษ ถ้าคุณรู้จักดื่ม และนี่คือ 6 ข้อเท็จจริงที่เราเอามาป่าวประกาศ

ไม่รู้ใช่มั้ย...กาแฟช่วยลดความเสี่ยงการเกิดนิ่วในถุงน้ำดี มะเร็งลำไส้ใหญ่ โรคพาร์คินสัน ลดอันตรายจากตับในผู้ที่มีความเสี่ยงโรคตับ ลดอาการหอบในผู้ที่มีโรคหอบหืด เพิ่มความจำ และสำหรับนักกีฬาจะช่วยเพิ่มความทนและความอึดในกีฬาที่ต้องใช้เวลานาน ต้องดื่มบ่อยๆ...สำหรับผู้ที่ดื่มกาแฟเพราะต้องการแก้ง่วง แนะนำให้ดื่มปริมาณน้อยๆ แต่กระจายการดื่มออกไปตลอดวัน เพราะกาแฟจะเริ่มออกฤทธิ์ใน 15 นาที และจะอยู่ในร่างกายนานหลายชั่วโมง และต้องใช้เวลาถึง 6 ชั่วโมงกว่าที่จะถูกขจัดออกจากร่างกาย

กาแฟดีกว่าไวน์และชาสมุนไพร...เมล็ดกาแฟมีสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าชาเขียวถึง 4 เท่า และยังมากกว่าโกโก้ ชาสมุนไพร และไวน์แดง


ระวังไว้นิดก็ดี...องค์ประกอบหลักของกาแฟคือ สารกาเฟอีน ซึ่งเป็นสารกระตุ้นที่มีผลต่อระบบหลอดเลือดและหัวใจ ทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น หรือเต้นผิดปกติในบางครั้ง และเพิ่มความดันโลหิต งานวิจัยล่าสุดจากมหาวิทยาลัยโทรอนโทเปิดเผยว่า การดื่มกาแฟมากอาจเพิ่มความเสี่ยงหัวใจวายเฉียบพลันในผู้ที่มียีนขจัดกาเฟอีนช้า ทำให้กาเฟอีนอยู่ในกระแสเลือดนานขึ้น แต่สำหรับคนที่มียีนปกติที่ขจัดกาเฟอีนได้เร็วกาแฟก็จะไม่มีผล

อะไรที่มากหรือน้อยเกินพอดีล้วนมีโทษทั้งสิ้น เพราะฉะนั้น ถ้าคุณอยากดื่มกาแฟให้ได้ประโยชน์
ก็ต้องเลือกในปริมาณ และรสชาติที่เกินพอดีแล้ว จะมีความสุขกับกาแฟแก้วโปรดไปอีกนานๆ



ที่มา : http:// members.tripod.com/rnpong/ -คุยเฟื่องเรื่องสุขภาพ
จัดทำโดย...สมาชิกหอผู้ป่วยใน รพ.รร.จปร กลุ่มที่ 5 (12 ก.ย.51)

อาหารช่วยลดคอเลสเตอรอล

“อาหาร 6 อย่าง ช่วยลดคอเลสเตอรอล”

มะเขือต่างๆ
ทั้งมะเขือเทศ มะเขือเปราะ หรือมะเขือพวง อย่างมะเขือเทศก็จะมีทั้งวิตามินซี รวมทั้งมีสารเบต้าแคโรทีน และแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์อีกหลายชนิด



หอมหัวใหญ่
ช่วยป้องกันโรคความดันโลหิตสูง ลดระดับไขมัน คอเรสเตอรอลในเส้นเลือด และสารที่สกัดจากหัวหอมใหญ่ สามารถลดน้ำตาลในเส้นเลือดได้


กระเทียมสด
มีสรรพคุณในเรื่อง ของการช่วยป้องกันโรคความดันโลหิตสูง ลดระดับไขมัน และคอเรสเตอรอลในเส้นเลือด



ถั่วเหลือง
พืชตระกูลถั่วที่ให้โปรตีนสูง

แอปเปิ้ล
ผลไม้สารพัดประโยชน์ที่มีเพคติน ซึ่งเป็นไฟเบอร์ที่ละลายน้ำได้ ซึ่งไฟเบอร์ประเภทนี้ จะดึงคอเลสเตอรอล แล้วขับออกมาจากร่างกายได้ นอกจากนั้นก็ยังช่วยบำรุงหัวใจ ลดความดัน ควบคุมปริมาณน้ำตาลในร่างกาย



โยเกิร์ต
ที่นอกจากจะช่วย ลดระดับคอเลสเตอรอล ในเลือดได้แล้ว ก็ยังบำรุงผิวพรรณ ให้เปล่งปลั่งอีกด้วย

ที่มา : http://learn.chanpradit.ac.th/ -สุขภาพ
ด้วยความห่วงใย...พ.ต.หญิงรุ่งอรุณ วัฒยากร (1 ก.ย.51)

วันจันทร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2551

หลักการบริโภคอย่างที่มีสุขภาพดี

“หลักการบริโภคอย่างที่มีสุขภาพดี”

1. กินอาหารธรรมชาติเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะร่างกายต้องการสารอาหารที่บริสุทธิ์ปราศจากการปรุงแต่ง

2. กินอาหารที่ไม่ขักสี เช่นข้าวซ้อมมือ ขนมปังโฮลวีท เนื่องจากข้าวซ้อมมือมีเส้นใยสูง อีกทั้งยังมีสารอาหารอีกหลายชนิด เช่น Folic acid, Niacin, วิตามิน B1, วิตามิน B6 ,DNA / RNA
3. กินอาหารที่มีเส้นใย ผลไม้และ ผักสด อาหารที่มีเส้นใยสูง ได้แก่ ข้วกล้อง ผัก ผลไม้ บางชนิด เช่น ฝรั่ง มะม่วง มะขาม เป็นต้น ส่วนผักสด และ ผลไม้นั้น การกินผักสด ทำให้ได้วิตามิน และเอมไซด์ ส่วนผลไม้ นั้นให้วิตามิน และแร่ธาตุ

4. กินอาหารเนื้อสัตว์น้อยที่สุด หรือไม่กินเลย เนื่องจากเนื้อสัตว์ มักมียาปฏิชีวนะ สเตรียรอยด์ ตกค้างอยู่ ซึ่งจะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลงได้ นอกจากนี้ ร่างกายของมนุษย์ ไม่เหมาะกันการกินเนื้อสัตว์ เนื่องจากลำไส้ของมนุษย์ยาวกว่าสัตว์กินเนื้อถึง 20 เท่า ทำให้เนื้ออยู่ในลำไส้เป็นเวลานาน จนอาหารเน่า ทำให้เกิดการแพร่กระจายของแบคทีเรีย อีกทั้งการย่อยเนื้อต้องใช้พลังงานมาก
5. เน้นผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง เพาะถั่งเหลืองประกอบด้วยโปรตีนจากพืชและไฟโตอีสโตรเจน

6. ผลิตภัณฑ์ประเภทนมควรแน่ใจแหล่งผลิต
7. ให้ระมัดระวังอาหารที่มีไขมัน งดไขมันจากสัตว์ หลีกเลี่ยงไขมันที่ผ่านกระบวนการที่ใช้ความร้อนสูง
8. หลีกเลี่ยงอาหารสังเคราะห์หรืออาหารที่ผลิตจากแป้งขาว น้ำตาลทรายขาว




ที่มา : http:// members.tripod.com/rnpong/ -คุยเฟื่องเรื่องสุขภาพ
จัดทำโดย...สมาชิกหอผู้ป่วยใน รพ.รร.จปร กลุ่มที่ 4 (28 ส.ค.51-4 ก.ย.51)

วันอังคารที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ทำใจให้รักเจ้านาย

"มาทำใจให้รักให้รักเจ้านายกันเถอะ"

ถึงเจ้านายคุณจะสร้างความอึดอัดให้คุณขนาดไหน ก็อย่าคิดไปเปลี่ยนเจ้านายเลย ทุกอย่างอยู่ที่ตัวคุณเองที่ต้องมั่นใจว่าคุณจะรับมือกับเจ้านายได้เสมอ แม้ว่าเขาหรือเธอจะมู้ดดี้สักแค่ไหน แรกๆ อาจจะยากสักหน่อย แต่เชื่อสิว่าคุณจะหาวิธีเวิร์คๆ ให้รักเจ้านายตัวเองได้

1. บอกตัวเองให้มั่นใจ จำไว้ว่าคุณไม่ได้แย่อย่างที่เจ้านายว่าหรอก เพียงแต่คุณอาจจะเผอเรอ ไม่ทันระวัง ก็เลยทำงานพลาดโดยไม่ได้ตั้งใจ ทีนี้แทนที่จะโกรธ..คงต้องหันไปขอบคุณเจ้านายที่บอกให้คุณรู้ตัว ช่วยให้คุณไม่ทำงานพลาดใหญ่โตไปมากกว่านั้น และยังช่วยเตือนตัวคุณไม่ให้ทำผิดพลาดอีกคราวหน้า
2. คิดซะว่า....เราจะได้เก่งขึ้น อย่ามัวแต่คิดว่าเจ้านายกดดันให้คุณทำงานมากมาย ต้องรับผิดชอบงานนั้นงานนี้เต็มไปหมด อะไรๆ ก็เรียกใช้คุณตลอด นั่นไม่ใช่เพราะเจ้านายอยากจะแกล้งคุณหรอก แต่เป็นเพราะเจ้านายอยากให้คุณทำงานเก่งขึ้นมากกว่า ยิ่งทำงานมาก คุณก็ยิ่งเก่งมากกว่าคนอื่นไม่รู้กี่เท่า จริงไหม
3. รู้มั้ยว่า “ เจ้านายเครียดยิ่งกว่าคุณอีก” รู้ไหมว่าเบื้องหลังงานของเจ้านายก็มีแต่เรื่องใหญ่ๆ ให้ต้องรับผิด ชอบ วางแผนงานโดยรวม ประชุมสรุปงานไม่เว้นแต่ละวัน วันละหลายชั่วโมง มีแต่เรื่องเครียดๆให้คิด การเงินก็ต้องดู และยังต้องดูแลลูกน้องอย่างคุณด้วย เห็นมั้ยว่ามีแต่เรื่องยุ่งยากกว่าให้ทำทั้งนั้น ถ้าให้คุณเป็นเจ้านายดูบ้าง คุณจะว่าไง
4. เจ้านายก็คนธรรมดานี่แหละ บางวันอาจเจออะไรแย่ๆ บังเอิญทำเห็นหน้าคุณเข้าก็เลยหงุดหงิดทันที อย่าไปคิดมากอะไร ถ้าเรื่องไม่เป็นเรื่องก็ทำเป็นหูทวนลมไปซะ เดี๋ยวเจ้านายก็คงอารมณ์ดีขึ้นเอง แต่ช่วงนั้นคุณอย่าพึ่งเข้าไปคุยเรื่องงานเข้าล่ะ ยิ่งถ้ามีปัญหาอะไรเบรคเอาไว้ก่อน แล้วแอบดูอารมณ์เจ้านายนิดหนึ่งว่าดีขึ้นหรือยัง ถ้าดีแล้วค่อยเข้าไปคุยจะดีกว่า...

ที่มา : หนังสือคลีโอ ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2550
จัดทำโดย...สมาชิกหอผู้ป่วยใน รพ.รร.จปร กลุ่มที่ 3 (4 ส.ค.51)

การมีชีวิตอยู่กับคนที่รักคือความสุข

"การมีชีวิตอยู่กับคนที่รักคือความสุข"

ทุกวันนี้เรามีตึกสูงขึ้น มีถนนกว้างขึ้น แต่...ความอดกลั้นน้อยลง
เรามีบ้านใหญ่ขึ้น แต่...ครอบครัวของเรากลับเล็กลง
เรามียาใหม่ ๆ มากขึ้น แต่...สุขภาพกลับแย่ลง
เรามีความรักน้อยลง แต่...มีความเกลียดมากขึ้น
เราไปถึงโลกพระจันทร์มาแล้ว แต่...เรากลับพบว่า แค่การข้ามถนนไปทักทายเพื่อนบ้านกลับยากเย็น.....
เราพิชิตห้วงอวกาศมาแล้ว แต่...แค่ห้วงในหัวใจกลับไม่อาจสัมผัสถึง
เรามีรายได้สูงขึ้น แต่...ศีลธรรมกลับตกต่ำลง
เรามีอาหารดี ๆ มากขึ้น แต่...สุขภาพแย่ลง
ทุกวันนี้ทุกบ้านมีคนหารายได้ได้ถึง 2 คน แต่...การหย่าร้างกลับเพิ่มมากขึ้น
ดังนั้น…… จากนี้ไป……ขอให้พวกเรา อย่าเก็บของดี ๆ ไว้โดยอ้างว่าเพื่อโอกาสพิเศษ
เพราะทุกวันที่เรายังมีชีวิตอยู่คือ ……โอกาสที่พิเศษสุด……แล้ว

จงแสวงหา การ หยั่งรู้
จงนั่งตรงระเบียงบ้านเพื่อชื่นชมกับการมีชีวิตอยู่ โดยไม่ใส่ใจกับความ…..อยาก…
จงใช้เวลากับครอบครัว เพื่อนฝูงคนที่รักให้มากขึ้น…
กินอาหารให้อร่อย ไปเที่ยวในที่ที่อยากจะไป
ชีวิตคือโซ่ห่วงของนาทีแห่งความสุขไม่ใช่เพียงแค่การอยู่ให้รอด
เอาแก้วเจียระไนที่มีอยู่มาใช้เสีย
น้ำหอมดี ๆ ที่ชอบ จงหยิบมาใช้เมื่ออยากจะใช้
เอาคำพูดที่ว่า! …….สักวันหนึ่ง……..ออกไปเสียจากพจนานุกรม
บอกคนที่เรารักทุกคนว่า...เรารักพวกเขาเหล่านั้นแค่ไหน
อย่าผลัดวันประกันพรุ่ง...ที่จะทำอะไรก็ตามที่ทำให้เรามีความสุขเพิ่มขึ้น
ทุกวัน ทุกชั่วโมง ทุกนาที มีความหมาย เราไม่รู้เลยว่าเมื่อไรมันจะสิ้นสุดลง
…..และเวลานี้…. ถ้าคุณคิดว่าคุณไม่มีเวลาที่จะ อ่านข้อความนี้……
แล้วคิดว่า….สักวันหนึ่ง…..ค่อยอ่าน..
จงอย่าลืมคิดว่า….สักวันหนึ่ง…..วันนั้น คุณอาจไม่มีโอกาสมานั่งตรงนี้เพื่อทำอย่างที่คุณต้องการอีกก็ได้

ด้วยความปรารถนาดี...จาก พ.ต.หญิงรุ่งอรุณ วัฒยากร : 1 สค.51

อาหารลดเครียด

“ อาหารลดความเครียด ”


อาหารลดความเครียดนี้ จะเป็นอาหารที่มีสารที่เรียกว่า “ซีโรโตนิน” ทำหน้าที่เกี่ยวกับการแสดงอารมณ์ความรู้สึก และควบคุมวงจรการนอนหลับ สารตัวนี้เมื่อเข้าในสมอง จะทำให้ความเครียดลดลง ซึ่งมีในพวก คาร์โบไฮเดรต แต่ควรจะรับประทานประเภท คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น ขนมปังโฮลวีต ผลไม้รสหวาน โดยรับประทานอาหารที่เย็นและหวานแต่ไม่ต้องถึงกับหวานจัด เช่น ผลไม้แช่เย็น น้ำผลไม้ จะทำให้สดชื่นขึ้นหากว่าเราเครียดมาเป็นระยะเวลานาน ร่างกายเราจะขาดวิตามินบีรวม,อีและซี สังกะสี โปแตสเซียม และแมกนีเซียม เพราะ ร่างกายต้องใช้สารเหล่านี้ในการสร้างฮอร์โมน เพราะฉะนั้น “เวลาเครียดจึงควรรับประทานอาหารพวกผัก ผลไม้ หลากหลายที่มีรสเปรี้ยว เพราะมีวิตามินซีค่อนข้างมาก ได้แก่ กล้วยหอม มังคุด และส้ม ผักใบเขียว และธัญพืช






เรามีวิธีง่ายๆในการลดความเครียดมาฝากกันค่ะ...

**เริ่มต้นจากตัวของเรา ต้องรู้จักปล่อยวาง เพราะทุกวันเรามักเผชิญกับเหตุการณ์ที่มากระทบกระเทือนจิตใจของเรา
**เราบังคับไม่ให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นไม่ได้ แต่เราก็สามารถฝึกตัวเองให้หวั่นไหวน้อยที่สุด มีอารมณ์ในสิ่งนั้นน้อยที่สุด
**ตั้งสติแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้น อย่าตำหนิอดีตหรือโทษอดีตที่แก้ไม่ได้ หรือกังวลถึงอนาคตที่ยังมาไม่ถึง แต่ “ตั้งใจทำปัจจุบันให้ดีที่สุด





ที่มา : จุลสาร Good-lift ฉบับที่ 19 ประจำเดือนมี.ค-เม.ย51 จัดทำโดย...สมาชิกหอผู้ป่วยใน รพ.รร.จปร กลุ่มที่ 1 (7-18 ก.ค.51)

วันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ปวดหลังจากการแต่งตัว

"แต่งตัวด้วยทองหยองก็เป็นโทษอาจทำให้เจ็บปวดแผ่นหลังทรมาน"


หมอจัดกระดูกผู้มีชื่อเสียงกล่าวเตือนสตรีทั่วไปว่าแม้ว่าเครื่องประดับอย่างพวกตุ้มหูที่แวววับสร้อยคอ และครอบฟันที่เป็นทองจะทำให้สวยเด่นสะดุดตากว่าผู้อื่นแต่ก็อาจทำให้ปวดหลังได้
นายไซมอน คิง หมอนักจัดกระดูกจากนิวซีแลนด์กล่าวว่า ตุ้มหู สร้อยคอ นาฬิกาข้อมือ และแม้แต่ครอบฟันทองอาจเป็นขนวนทำให้ปวดหลังหมดเรี่ยวหมดแรงได้เนื่องจากการเสียดสีกับโลหะเหล่านี้จะทำให้กล้ามเนื้อเกร็งอยู่เสมอทำให้มันอ่อนแรงลงยิ่งกว่าปกติ กล้ามเนื้อที่อ่อนแอจะทำให้รู้สึกเจ็บปวดที่หลังและคอ ไหล่แข็ง หมอนรองกระดูกเคลื่อน ข้อศอกด้านนอกอักเสบ ไม่มีคนไหนที่อยากจะเอาที่อุดหรือครอบฟันด้วยทอง หรือถอดเครื่องประดับต่าง ๆ ทิ้งไป แต่ถ้าหากมันทำให้เจ็บปวดหรือเกิดปัญหาทางสุขภาพอาจจะทำให้เสียงานหรืออาชีพทางด้านกีฬาหรือทำให้รู้สึกเจ็บปวดทรมานอยู่แรมปีก็สมควรที่จะเอาครอบหรือสิ่งที่อุดฟันพวกนั้นออกเสีย
นายคิงอ้างว่าได้ศึกษาวิจัยเรื่องนี้มาเกือบ 8 ปี รู้ว่าการแต่งเครื่องประดับที่เป็นโลหะทำให้ระบบประสาทมีความระแวงที่จะคอยเกร็งตัวให้ห่างจากผิวหนังบริเวณที่อยู่ใกล้ ๆ มัน ทำให้กล้ามเนื้อชิ้นใหญ่ต้องคอยเกร็งอยู่รักษาความห่างเอาไว้ “ ดีแต่มีข้อดีใหญ่อยู่อย่างหนึ่งตรงที่การรักษาเป็นแบบด้วยวิธีธรรมชาติทั้งหมดมันจึงทำได้ปลอดภัยและทำให้หายเป็นปกติลงได้ทุกเมื่อ”

ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐวันศุกร์ที่ 11 พ.ค.51
จัดโดย...สมาชิกหอผู้ป่วยใน รพ.รร.จปร กลุ่มที่ 2 (21ก.ค.-3 ส.ค.51)

กาแฟเติมพลัง

"กาแฟเติมพลังคืนให้กับกล้ามเนื้อนักกีฬากลับเข้มแข็งได้เร็วขึ้น"
ตามปกติเมื่อออกกำลังเหนื่อยๆ ใครๆ ก็อยากจะกินน้ำแต่การวิจัยใหม่กลับพบว่าหากกินกาแฟสักหนึ่งถ้วยจะกลับช่วยให้กล้ามเนื้อตามส่วนต่างๆ กลับสดชื่นขึ้นใหม่ได้อย่างรวดเร็ว
นักวิจัยของสมาคมสรีรวิทยาอเมริกันศึกษา พบว่าคนที่ออกกำลังมาอย่างหนัก หากกินคาร์โบไฮเตรตและคาเฟอีนผสมกันจะช่วยเติมไกลโคเจนอันเป็นเชื้อเพลิงหลักของกล้ามเนื้อขณะออกกำลังให้กลับคืนเหมือนเดิมได้ในเวลาอันรวดเร็ว พวกเขาได้พบว่านักกีฬาที่ได้บริโภคคาเฟอีนกับคาร์โบไฮเดรตจะกลับมีไกลโคเจนในกล้ามเนื้อกลันคืนมากถึงร้อยละ 66 ชั่วหลังจากการฝึกซ้อมมาอย่างหนักในเวลาแค่เพียง 4 ชม.

ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐวันศุกร์ที่ 11 พ.ค.51
จัดโดย...สมาชิกหอผู้ป่วยใน รพ.รร.จปร กลุ่มที่ 2 (21ก.ค.-3 ส.ค.51)